ลือเฮี้ยน เครนยักษ์ยกปล่องเมรุ พังถล่มทับศาลา เผยปาฏิหาริย์หลวงปู่ทวดและพระเจ้าตาก
จากกรณีที่ได้เกิดเหตุสุดระทึกขวัญขึ้นที่วัดคงคาเลียบ หมู่ 3 ต.ท่าซัก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ในขณะที่ทางวัดได้ว่าจ้างเครนขนาดใหญ่มายกปล่องเมรุที่ชำรุด แต่เนื่องจากปล่องปูนควันไฟมีน้ำหนักมากเกินไป ทำให้ปล่องควันไฟยกเครนขึ้นทั้งยวง ก่อนที่คานรถเครนถล่มทับหลังคาเมรุ และในส่วนช่วงปลายเครนที่มีปล่องปูนควันไฟอยู่ด้วยถล่มทับหลังคาศาลาการเปรียญในจุดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด และรูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และพระพุทธรูปขนาดต่าง ๆ อีกนับ 10 องค์ ที่อยู่ใกล้กันจนหลังคาพังยับเยิน แต่รูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสินและหลวงปู่ทวด และพระพุทธรูปกลับไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ เป็นเรื่องเหลือเชื่อ ท่ามกลางการวิพากวิจารณ์เล่าลือกันกว้างขวางว่าเกิดจากอาถรรพ์เจ้าเปลววัดคงคาเลียบ ซึ่งทางวัดและผู้รับเหมากำลังระดมรถเครนขนาดใหญ่อีก 2-3 คันมาช่วยกันกู้ซากปล่องปูนควันไฟเมรุออกจากศาลาการเปรียญ รวมทั้งกู้รถเครนมรณะคันดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยในช่วงหัวค่ำวันเดียวกัน
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2563 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (12 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากทางผู้รับเหมาได้นำรถเครนอีก 2 คันมาช่วยกันกู้ซากปล่องปูนควันไฟและรถเครนคันแรกที่เกิดเหตุแล้วเสร็จในคืนที่ผ่านมา (11 ส.ค.) ในขณะที่ประชาชนจำนวนมากที่ทราบข่าวได้เดินทางมาดูเหตุการณ์ภายในวัดคงคาเลียบและจับกลุ่มวิพากวิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง โดยชาวบ้านและพระในวัดได้แยกย้ายกันออกตรวจสอบความเสียหาย พร้อมนำคลิปและภาพนิ่งที่ถ่ายไว้หลังเกิดเหตุมาตรวจสอบพบว่าปลายปล่องควันควันไฟเมรุได้ล้มทับระหว่างรูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากและสมเด็จหลวงปู่ทวด ทำให้ปลายปลอกดาบของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชหักเสียหายเล็กน้อย แต่มีไม้ดุ้นหนึ่งที่หักลงมาค้ำเอาไว้ทำให้ในส่วนศรีษะไม่ได้รับความเสียหาย ซึ่งหากไม่มีไม้ค้ำยันไว้รูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชจะต้องได้รับความเสียหายทั้งองค์อย่างแน่นอน
ส่วนหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดปล่องควันไฟเมรุได้ล้มเฉี่ยวส่วนเศียรไปชนิดยาแดงผ่าแปดก่อนทับลงบนหน้าตักองค์พระทำให้มีแค่รอยถลอกเล็กน้อยและทำให้องค์พระตะแคงแต่ไม่ได้รับความเสียหายใด ท่ามกลางความแปลกใจของชาวบ้านที่รูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและสมเด็จหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด พร้อมพระพุทธรูปอื่น ๆ รอดพ้นจากการถูกปล่องปูนควันไฟทับราวปาฏิหาริย์ อย่างไรก็ตามในจุดเดียวกันยังมีรูปหล่อไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ขนาดความาสูง 19 นิ้ว ที่วางอยู่ระหว่างรูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชกับสมเด็จหลวงปูทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ซึ่งในตอนแรกทุกคนคิดว่าคงจะถูกปล่องปูนควันไฟเมรุทับจนเสียหายอยู่ใต้ซากปูนและสิ่งปรักหักพัง แต่เมื่อช่วยกันเคียร์พื้นที่กลีบไม่พบรูปหล่อไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์องค์ดังกล่าว ไม้จะระดมกำลังช่วยกันค้นหาจนทั่วบริเวณก็ไร้ร่องรอย เป็นที่แปลกใจของทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นอย่างมาก
จนมีการพูดล้อเลียนกันไว้ช่วงเกิดเหตุไอ้ไข่อาจจะพยายามจะรับน้ำหนักเครนแต่หนักเกินไปรีบไม่ไหวไอ้ไข่จึงกระโดดหนีไป นายประเสริฐ บางแสง อายุ 59 ปี คนขับรถเครนคันเกิดเหตุ กล่าวว่า ทางวัดคงคาเลียบได้ว่าจ้างให้นำรถเครนมายกปล่องปูนควันไฟเมรุ และรื้อเมรุออกจากจุดดังกล่าว และหลังจากที่พนักงานขึ้นไปล็อคเชือกกับแท่งปูนปล่องควันไฟที่สูงขึ้นไปจากหลังคาเมรุประมาณ 15 -20 เมตร ตนได้พยายามโยกให้แท่งปูนปล่องควันไฟหลุดออกจากโครงหลังคาเมรุ แต่เมื่อแท่งปูนปลองควันไฟหลุดออกมามีน้ำหนักมากและเทไปทางฝั่งตรงข้าม ทำให้ตัวฐานรถเครนรับน้ำหนักไม่ไหวลอยขึ้นสูงจากพื้นดินไม่น้อยกว่า 4 เมตร ทำให้คันเครนทับหลังคาเมรุ ส่วนช่วงปลายเครนที่มีแท่งปล่องควันไฟผูกมัดอยู่อย่างแน่นหนาล้มทับหลังคาศาลาการเปรียญจนหลังคาพังถล่มลงมา
ในขณะที่แท่งปูนปล่องควันไฟทับเข้าไปในศาลาการเปรียญจนกำแพงพังเสียหายไปทั้งแถบ แต่ไม่น่าเชื่อว่าทั้งชิ้นส่วนไม้หลังคาที่พังถล่มลงมารวสมทั้งแท่งปูนปล่องควันไฟขนาดใหญ่ที่หล่นทับเข้าไปในศาลาการเปรียญตรงที่มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและรูปหล่อสมเด็จหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด กลับไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด โดยส่วนตัวตนไม่คิดว่าเป็นอาถรรพ์สิ่งเร้นลับหรือเจ้าเปลวโกรธแค้นไม่พอใจทำให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้น ตนมองว่าเป็นเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดจากการคำนวนน้ำหลักแท่งปูนปล่องควันไฟเมรุผิดพบาด ไม่คิกดว่าจะมีน้ำหนักมากมายขนาดนั้น แต่แม้จะไม่เชื่อตนก็ไม่ลบหลู่เพราะตนทำงานขับยรถเครนมานานหลายสิบปี ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงแบบนี้มาก่อน
ในขณะที่พระครูสมุห์พิสิทธิ์ อนาลโย รักษาการเจ้าอาวาสวัดคงาเลียบ กล่าวว่า อาตมาเพิ่งได้รับการแต่งตั้งจากคณะสงฆ์จังหวัดนครศรีธรรมราชให้มารักษาการเจ้าอาวาสวัดคงวคาเลียบได้ไม่ถึง 3 เดือน และเห็นว่าวัดคงคาเลียบเป็นวัดเก่าแก่สมัยกรุศรีอยุธยา มีประวัติความเป็นมาเกี่ยวข้องกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชตอนรวบรวมไล่พลกู้กุงศรีอยุธยา และสมเด็จหลวงปู้ทวด เหยียบนน้ำทะเลจืด ช่วงจะเดินทางเข้าไปศึกษาต่อที่กรุงศรีอยุธยา แลพะวัดชำรุดทรุดโทรมอย่างหนัก จึงได้ร่วมกับผู้นำท้องถิ่นกำนัน ผู้ใหญ่บ่าน นายก อบต.ท่าซัก ทำการพัฒนาวัดในทุก ๆ ด้าน และพบว่าเมรุซางตั่งอยู่กลางวัดไม่เหมาะสม ประกอบกับแท่งปูนปล่องควันไฟแตกหักชำรุด เกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุหักโค่นลงมาอาจจะทำให้มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ จึงเชิญผู้นำท้องถิ่นและชาวบ้านมาประชุมหารือและมีมติว่าให้รื้อเมรุไปสร้างใหม่ในจุดที่เหมาะสม โดยมีเจ้าของบริษัทที่เป็นญาติของอาตมาเขาสงสารอาตมาที่ทุ่มเทในการพัฒนาวัดคงคาเลียบ จึงรับปากว่าจะสร่างเมรุเปาศพไฟฟ้าให้ใหม่มูลค่า 3 บล้านบาท โดยจะสร้างให้ก่อนและให้ทางวัดผ่อนตจ่ายให้ 3 ปี ๆ ละ 1 ล้าบาท ในวันนี้จึงว่าจ้างรถเครน หจก.สันยาคอนกรีต มาทำการรื้อเมรุเก่าออก เริ่มจากการการรื้อส่วนของแท่งปูนปล่องควันไฟ จนเกิดเรื่องไมท่คาดฝันขึ้นดังกล่าว
สำหรับเรื่องที่หลายคนเชื่อว่าเป็นอาถรรพ์ของเจ้าเปลว และการดำเนินการรื้อถอนจะต้องประกอบพิธีบวงสรวง เซ่นไหว้บอกกล่าวขออนุญาตตามความเชื่อโบราณ เรื่องนี้อาตมาไม่ได้ละเลยและได้ประกอบพิธีบวงสรวงเซ่นไหว้ขออนุญาติแล้วในช่วงเช้าวันเดียวกัน (11 ส.ค.) และในช่วงที่ทำพิธีได้มีวิญญาณของเจ้าเปลว ซึ่งเป็นผู้หญิงชื่อ คุณยายพร้อย มาเข้าสิงร่างผู้หญิงคนหนึ่ง อาตมาได้สอบถามคนเฒ่าคนแก่เขาก็บอกหตรงกันว่า คุณยายพร้อย คือเจ้าเปลววัดคงคาเลียบจริง ๆ เพราะเผาที่เมรุหลังนี้เป็นศพแรก แต่คุณยายพร้อย ท่านก็แสดงความดีใจที่ทุกฝ่ายร่วมแรงร่วมใจมาพัฒนาวัด และไม่ขัดข้องที่จะย้ายเมรุไปสร้างที่ใหม่และพร้อมที่จะไปอยู่ที่ใหม่ไม่มีปัญหาใด ๆ คุณยายพร้อย ยังบอกให้แก้ไขในสิ่งที่ทำๆไม่ถูกต้อง เช่น การนำขนมบางชนิดมารวมอยู่ในเครื่องเซ่นไหว้ก็ขอให้อาตมายกออกไปอาตมาก็ปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณยายพร้อย เจ้าเปลวอย่างเคร่งครัด และท่านมาเข้าสิงร่างผู้หญิงคนดังกล่าวนานหลายชั่วโมง เจ้าอาวาสวัดคงคาเลียบ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงไม่ทำให้การก่อสร่าวเมรุหลังใหม่สดุดทางวัดจะทำสัญญาก่อสร้างกับบริษัทที่เขารับสร้างให้ก่อนตามกำหนดเดิมในวันสองวันข้างหน้านี้ โดยอาตมาไม่รู้สึกหนักใจกับงบประมาณที่จะต้องจัดหาให้บริษัทฯรับเหมาก่อสร้างปีละ 1 ล้านบาท โดยต้องระดมเงินทุนจากผู้ใจบุญ ใจกุศลทั่วประเทศในการสมทบทุนสร้างเมรุหลังใหม่งบประมาณ 3 ล้านบาทและปรับปรุงซ่อมแซมศาลาการเปรียญที่ได้รับความเสียหายจากเครนและแท่งปูนปล่องควันไฟเมรุเก่าล้มทับอีกประมาณ 2 แสนบาท โดยแจ้งความประสงค์ร่วมบริจาคสมทุนสร้างเมรุใหม่ ได้ที่อาตมา โทร.064-1695894 พระสมุห์พิสิทธิ์กล่าว
เรียบเรียงโดย ไพรวัลย์ ทีมข่าวสยามนิวส์ จ.นครศรีธรรมราช




Comments
Post a Comment